โครงการสัมมนาวิทยากรต้นแบบชุดปฎิบัติการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมพิธีลงนามทำบันทึกข้อตกลงให้ความร่วมมือ (MOU) พื้นที่ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันนี้ ( 22 ธ.ค.66 ) ศูนย์การเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หมูที่ 2 ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายชุ้น ณัฐเดชกังสุกุล ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานพิธีเปิดโครงการ บันทึกข้อตกลงให้ความร่วมมือตามโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พื้นที่ตำบลนาทราย โดยมีนายสุเทพ แก้วประดิษฐ์ นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.อ.กิตติไชย ไกรนรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค8 นายศุภโชค ช่วยคุ้ม ปลัดป้องกันอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายธรรมนูญ ชามทอง สาธารณสุขอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ร.ต.ต.โกศล พูนพิพัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย นายวัชรา ชุมธรรม กำนันตำบลนาทราย พระครูวิริยะสุนทร เจ้าอาวาสวัดหญ้า นายสมชาย เกตุชาติสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเขต7 นายอานนท์ เนียมเงิน ผู้อำนวยการทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช ตลอดจน ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อสม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามทำบันทึกข้อตกลงให้ความร่วมมือ (MOU)
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินโครงการเพื่อแก้ไข ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เป็นแนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้ใช้ยาเสพติดในชุมชนของตนอย่างเป็นระบบ และปลอดภัยอย่างยั่งยืน
สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้จัดทำโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ณ ตำบลนาทราย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566-31 มีนาคม 2567 เป็นระยะเวลา 4 เดือนนั้น ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามทำ ข้อตกลงให้ความร่วมมือ (MOU) ในวันเปิดโครงการนี้ และระหว่างดำเนินโครงการ เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ อย่างชัดเจน ให้ประชาชน สื่อมวลชน และมีส่วนราชการ ต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน ว่าจะได้ร่วมปฏิบัติงานในชุมชนด้วยกัน
สำหรับการดำเนินงานตามโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาและความรุนแรงในสังคมไทย รัฐบาลมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยวิธีการทางสาธารณสุขแทนการใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดยยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยที่ควรได้รับความช่วยเหลือให้เข้ารับการบำบัดรักษา ตลอดจนมีการติดตามช่วยเหลือให้กลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข สำหรับวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการเพื่อเสริมสร้างให้คนในชุมชน หมู่บ้าน เกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ รับรู้ ถึงปัญหาและพิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติดและการดูแลผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด รวมถึงผู้ป่วยจิตเวชหรือผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการค้นหา คัดกรอง ฟื้นฟู และลดอันตรายจากยาเสพติด รวมทั้งการสร้างภูมิคุ้มกัน ติดตาม ดูแล และช่วยเหลือทางสังคม โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยผ่านการบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข
อย่างไรก็ตาม ในการจัดโครงการในวันนี้ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายโดยมีตัวชี้วัดความสำเร็จ คือ ผู้เสพต้องลดลงมากกว่าร้อยละ 50 หรือหมดไป ผู้เสพรายใหม่ต้องไม่เกิด ไม่มีผู้ค้า ผู้จำหน่ายในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีครัวเรือนปลอดภัยจากยาเสพติดและอาชญากรรม ความพึงพอใจของประชาชนมากขึ้น รวมถึงคดีอาชญากรรมลดลงด้วย สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ได้ 24 ชั่วโมง “ประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด”