ผวจ.นครศรีธรรมราช นำพุทธศาสนิกชน ร่วมสืบสานประเพณีโบราณ ทำบุญแรกปีใหม่ ให้ทานไฟ เมืองนคร และทำบุญตักบาตรเนื่องในวันปีใหม่ 2567
วันนิ้ (1 ม.ค.67) เวลา 06.00 น. ที่บริเวณลานทราย หน้าพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีทำบุญแรกปีใหม่ ให้ทานไฟ เมืองนคร 2567 โดยมีนายสมพงษ์ มากมณี นายสมชาย ลีหล้าน้อย นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราข ดร.กนพ เกตุชาติ นายกเทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายประยูร เงินพรหม ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน พ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ร่วมในพิธี มีพระธรรมวชิรากร (สมปอง ปญญาทีโป) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 16 – 17 และ 18 (ธ) เป็นประธานสงฆ์ โดยพิธีนี้ได้ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ จะทำในช่วงหัวรุ่ง ซึ่งปกติจะทำกันในช่วงฤดูหนาว พุทธศาสนิกชนร่วมกันก่อกองไฟขึ้นภายในบริเวณวัดจากนั้นปรุงอาหารควานหวานร้อน ๆ ถวายพระสงฆ์และสามเณร ซึ่งได้เรียกประเพณีนี้ว่าการให้ทานไฟ
จากนั้นในเวลา 06.50 น. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 บริเวณถนนราชดำเนิน หน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร โดยก่อนเริ่มพิธีทำบุญตักบาตร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ 2567 แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธี เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวในวันเริ่มต้นพุทธศักราชใหม่
สำหรับประเพณีบุญให้ทานไฟของชาวนครศรีธรรมราชนั้น พุทธศาสนิกชนจะร่วมกันนำไม้ฟืนมากองกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่พระสงฆ์ และร่วมกันปรุงอาหารคาวหวานร้อน ๆ นานาชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นบ้าน เช่นขนมครก ขนมโค ขนมพิมพ์ ขนมจาก ข้าวเหนียวกวนทอด หมี่ผัด ข้าวต้ม ข้าวยำ ข้าวผัด ขนมปังปิ้ง น้ำชา กาแฟ ปาท่องโก๋ เป็นต้น เมื่อปรุงเสร็จก็จะนำไปถวายพระสงฆ์สามเณร และเมื่อพระสงฆ์ฉันอิ่มแล้ว พุทธศาสนิกชนได้นำอาหารที่เหลือมีการแบ่งปันแก่ผู้เข้าร่วมพิธีไปรับประทานร่วมกัน เป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีและสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่สืบไป พร้อมกับร่วมบุญตามกำลังศรัทธา นำปัจจัยที่ได้ถวายวัดทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เป็นการร่วมแรงร่วมใจและพลังศรัทธา เป็นวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการทำบุญให้ทานแรกของปี เชื่อว่าได้บุญกุศลที่แรงกล้าและยิ่งใหญ่ จากนั้นพระสงฆ์จะสวดให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มาทำบุญเป็นอันเสร็จพิธี ส่วนอาหารที่เหลือมีการแบ่งปันแก่ผู้เข้าร่วมพิธีนำไปรับประทานร่วมกัน เป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีและสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่สืบไป จากนั้นจะได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ต่อเนื่องกันไปด้วย
//////////////////
บุณณดา ภัทรธันยพงศ์ /ข่าว-ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
1 มกราคม 2567