ตำรวจสันติบาลนครศรีฯ จัดอบรม “สร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” รุ่น 4/2568

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยพ.ต.ท.กฤษฏิ์ สุวรรณภาค สว.กก.4 บก.ส.1/หัวหน้าหน่วยฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมจัดอบรมโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รุ่นที่ 4/2568 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมราช ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสมโชค เสนา นายอำเภอลานสกา เป็นประธานในพิธีฯ มีนายเกียรติศักดิ์ บุญรวบ ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมราช พร้อมคณะครูอาจารย์ ให้การต้อนรับ และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้ารับการอบรมจำนวน 120 คน

พ.ต.ท.กฤษฎิ์ สุวรรณภาค หัวหน้าหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้มอบหมายให้หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการฝึกอบรมโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 4 รุ่น รุ่นละ 120 คน โดยวันนี้เป็นการอบรม รุ่นที่ 4 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นครศรีธรรมราช การจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึก และค่านิยมความเป็นประชาชนชาวไทย ปลูกฝังความรัก เทิดทูน และปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีคุณธรรมขั้นพื้นฐานของพลเมืองดี, 2. เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ประชาชน เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ให้ตระหนักถึงบทบาท ความสำคัญของเครือข่ายภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมต่อการดำเนินงานของภาครัฐ, 3. เพื่อจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุน อันนำไปสู่การเฝ้าระวัง ตรวจสอบการกระทำผิด โดยใช้ “หลักการทำงานมวลชนสัมพันธ์” เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน สังคม และประเทศชาติ, 4. เพื่อขยายการปฏิบัติในการจัดตั้งเครือข่ายประชาชน หรือกลุ่มพลังประชาชน ไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ให้สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ คุณประโยชน์จากโครงการพระราชดำริ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในระดับชุมชน และสังคมต่อไป

นายสมโชค เสนา นายอำเภอลานสกา ประธานในพิธีกล่าวว่า ในวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลก ทีเรียกระบอบการปกครองว่าระบอบประชาธิปไตย และต่อด้วยคำว่า อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหตุผลพื้นฐาน มาจากรากฐานของสังคมไทย ที่เคารพเทิดทูน”พระมหากษัตริย์” จากในอดีตถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ได้ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ประชาชน ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรือง แม้ในยามวิกฤติ พระมหากษัตริย์ก็ทรงช่วยให้ชาติรอดพ้นภัยมาได้ทุกครั้ง การจัดให้มีการฝึกอบรมโครงการ “การสร้างจิตสำนึก” ก็เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกและค่านิยมให้กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนโดยทั่วไปให้ทราบว่า พระมหากษัตริย์ไทย ทรงเสียสละทุ่มเทพระวรกาย ปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข จักได้มีความเคารพ รัก เทิดทูน และร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่คู่กับประชาชนชาวไทยสืบไป สถาบันพระมหากษัตริย์มีคุณูปการต่อประเทศไทยมาอย่างยาวนานมากมาย โดยจะเห็นได้เป็นอย่างดีว่าภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีที่มาจากพระมหากษัตริย์ไทยของเรา นั่นก็คือพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งในแต่ละสมัยแต่ละพระองค์ ก็ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย

พระมหากษัตริย์ที่ได้รับสมัญญานามมหาราช คือ พระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัย มีพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เรามีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “พระองค์ดำ” ที่ท่านทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทยจากพม่าหลังจากที่ได้เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยกรุงธนบุรี เป็นราชธานี ก็มีสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ให้แก่พม่า

พระมหากษัตริย์ที่ได้รับสมัญญานามมหาราช ในสมัยรัตนโกสินทร์คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ 1 ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง ทรงสร้างสิ่งต่างๆ ที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือพระปิยมหาราช พระองค์ทรงมีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อปวงชนชาวไทย ทรงวางรากฐานให้กับคนไทยไม่ว่าเรื่องการไฟฟ้า ประปา ไปรษณีย์ ที่สำคัญท่านทรงเลิกทาส ให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีอิสระเสรีภาพ และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงทุ่มเทพระองค์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทรงตรากตรำพระวรกายเสด็จพระราชดำเนินไปยังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แม้จะเป็นสถานที่ทุรกันดาร และพระองค์ท่านพยายามเตือนสติคนไทย ในยามที่บ้านเมืองประสบปัญหาวิกฤตต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ให้คงอยู่กับประเทศไทยสืบไป และสำคัญพระองค์ได้มีโครงการจิตอาสาพระราชทาน เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อรวมความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนชาวไทยในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่างๆ ให้มีความเจริญ ประชาชนคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปี สามารถสมัครจิตอาสาพระราชทานได้ เพื่อที่จะให้มีความมุ่งมั่น มาทำสิ่งที่ดีงามให้กับแผ่นดินร่วมกัน/// ด.ต.ธณัท ภัสสรนรากุล/ภาพ/ข่าว

Loading