เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้(3 ธ.ค.62) นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายไสว เขียวจันทร์ รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและประสิทธิภาพการระบายน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หลังจากที่ฝนได้ตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ซึ่งระดับน้ำในคลองสายต่าง ๆ ที่ไหลผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ คลองท่าวัง คลองหน้าเมือง คลองคูพาย คลองป่าเหล้า เป็นต้น ซึ่งเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำด้วยระบบเครื่องยนต์ตามจุดต่าง ๆ กว่า 30 เครื่อง ซึ่งขณะนี้หลายจุดได้เริ่มเดินเครื่องสูบน้ำแล้วเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมือง เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำ เช่น ชุมชนท่าโพธิ์ บริเวณสี่แยกพัฒนาการคูขวาง เป็นต้น
โดยนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีหนังสือสั่งการด่วนที่ให้ทุกส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิดตลอด24 ชั่วโมง และคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ไปถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2562 หากเกิดเหตุให้เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทันที ในส่วนของพี่น้องประชาชนขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดด้วย
นายไสว เขียวจันทร์ รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2562 ของเทศบาลนคร(ทน.)นครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อให้เป็นไปตามแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยของฝ่ายต่าง ๆ เช่น ฝ่ายป้องกันฯ ได้จัดซื้อเรือท้องแบนแบบพลาสติก จำนวน 50 ลำ กองสาธารณสุขและฝ่ายป้องกัน ได้กำจัดผักตบชวาและวัชพืช พร้อมขุดลอกคลอง 6 สาย พร้อมประสานกรมชลประทานขุดลอกคลองจากรอยต่อคลอง 5 สายเขตเทศบาลไปจนสุดเขตแล้ว ดูดล้างท่อระบายน้ำ 82 เส้นทาง สำนักช่าง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ ขนาดท่อ 6-12 นิ้ว ทั้งของเทศบาลเองและของกรมชลประทาน รวมทั้งเครื่องผลักดันน้ำ รวมกว่า 30 เครื่อง นอกจากนี้ได้มีการติดตั้งป้ายและธงเตือนภัยตามจุดต่าง ๆ ทุกคลองในเขตเทศบาลนครฯ ในส่วนของสถานที่ปลอดภัยเพื่อรองรับการอพยพ ได้จัดเตรียมโรงเรียนในสังกัดเทศบาลไว้ จำนวน 10 โรงเรียน ส่วนคันดินที่บ่อขยะให้กองสาธารณสุขตรวจสอบระดับน้ำทั้งข้างในและข้างนอกบ่อขยะอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้มีการจัดชุดเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และออกปฏิบัติงานกรณีเกิดอุทกภัย 7 ชุดด้วย..//////////