สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สงขลา ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 17-21 กุมภาพันธ์ 2563
วันนี้(17 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 14.25 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง จากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่ว่าการอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปากพนัง ผู้อำนวยการถวายความปลอดภัยประจำพื้นที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังอาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยในสถานที่ดังกล่าว มีเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายการุณ แปลงรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เฝ้าฯ รับเสด็จ และกราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานโครงการ ,ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินจัดการป่าพรุควนเคร็ง
จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการของส่วนราชการ ทอดพระเนตรนิทรรศการของศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ,ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานโครงการศึกษาทดลองปลูกป่าจากเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศลุ่มน้ำปากพนัง ,ทอดพระเนตรนิทรรศการของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกจาก ,ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กราบบังคมทูลรายงานผลการดำเนินงานด้านข้าว โดยในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง มีพื้นที่ประมาณ 1.99 ล้านไร่ เป็นพื้นที่นากว่า 260,026 ไร่ มีเกษตรกร ผู้ปลูกข้าว จำนวน 17,179 ครัวเรือน อดีตของลุ่มน้ำแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่ลุ่มที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเพาะปลูก มีการทำนามากที่สุดโดยอาศัยน้ำจากแม่น้ำปากพนัง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของลุ่มน้ำปากพนัง จึงเป็นแหล่งปลูกข้าวของภาคใต้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองทุกๆ ด้าน จนเป็นที่รู้จักกันของผู้คนอย่างกว้างขวาง ในนาม “เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ปลูกข้าว รวม 240,105 ไร่ เกษตรกร 15,813 ครัวเรือน ผลผลิตรวม 115,718 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 482 กิโลกรัมต่อไร่
ซึ่งในปี พ.ศ.2563 มีการส่งเสริมการปลูกข้าวปลอดสารพิษ ในพื้นที่ 100 ไร่ ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าว จำนวน 200 ไร่ มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ในพื้นที่ 450 ไร่ และมีการจัดทำแปลงต้นแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยลดการใช้สารเคมี ในปี 2563 ในเนื้อที่ 18 ไร่ โดยส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง จำนวน 10 ชนิด ,ก่อนเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จากนั้นพระราชทานต้นจากแก่นายอำเภอปากาพนังและผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ก่อนพระราชทานพันธุ์สัตว์น้ำแก่ผู้แทนส่วนราชการ และผู้แทนเกษตรกร ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ก่อนเสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังเรือนรับรอง ทรงเสวยพระกระยาหารเย็น ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชและศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดถวาย ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังจังหวัดสงขลา ตามลำดับต่อไป //////////////
อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ
พรรณี/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
17 กุมภาพันธ์ 2563