สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งเดินหน้าจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนพัฒนาการคูขวาง (ตลาดนัดเสาร์-อาทิตย์) -ถนนเฉลิมพระเกียรติ รองรับการเติบโตของเมืองและแก้ไขปัญหาการจราจร
วันนี้(10 มี.ค.63) นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายมนูญ สะมาลา อัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายทวี ไข่แก้ว โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ผู้แทนนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ผู้แทนนายอำเภอเมือง ผู้แทนนายก อบต.ปากนคร เจ้าของที่ดินที่อยู่ติดแนวที่ดินสาธารณประโยชน์พัฒนาการคูขวาง ลำเหมือง ลำราง และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณตลาดเสาร์-อาทิตย์ ริมถนนพัฒนาการคูขวาง เพื่อตรวจสอบพื้นที่สาธารณประโยชน์ในโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนพัฒนาการคูขวาง (ตลาดนัดเสาร์-อาทิตย์-ถนนเฉลิมพระเกียรติ
ซึ่งกรมโยธิการและผังเมือง โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการจัดรูปที่ดินที่เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ที่ตาบอดให้มีมูลค่าสูงขึ้น ชุมชนมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและน่าอยู่ พัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้เชื่อมโยงกันและเข้าถึงที่ดินทุกแปลงแก้ปัญหาพื้นที่ไม่มีทางเข้า-ออก อีกทั้งเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรของเมืองอย่างเป็นระบบและรองรับการเติบโตของเมือง โดยมีที่ดินที่อยู่ในโครงการ จำนวน 138 แปลง 111 ราย พื้นที่ประมาณ 198 ไร่เศษ โดยมีการตัดถนนเชื่อมถนนพัฒนาการคูขวาง บริเวณแยกถนนพะเนียด 30 เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กับถนนเฉลิมพระเกียรติ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลปากนคร(ถนนสาย ข6 ในเขตผังเมืองรวมนครศรีธรรมราช) ระยะทาง 1.428 กิโลเมตร แนวถนนกว้าง 16 เมตร แยกเป็นผิวถนน 12 เมตรและไหล่ทางข้างละ 2 เมตร และถนนกว้าง 20 เมตร ยาว 173 เมตรเชื่อถนนศูนย์เครื่องจักรกลเทศบาลนครฯ(ถนนสาย ง4) ใช้งบประมาณรวม 65 ล้านบาทในการก่อสร้างถนน พร้อมวางระบบประปา และระบบไฟฟ้า คาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ในเดือนพฤษภาคม 2563
สำหรับที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่โครงการ ประกอบด้วย แนวถนนเดิม ลำเหมือง ลำรางต่าง ๆ ซึ่งในการจัดรูปที่ดินดังกล่าวต้องมีพื้นที่สาธารณประโยชน์ไม่น้อยกว่าของเดิม แต่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะได้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินเดิมที่ติดที่สาธารณประโยชน์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านเวทีประชาคม พร้อมทั้งมีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการจัดรูปที่ดิน ซึ่งมีอัยการจังหวัดเป็นประธาน จากนั้นต้องมีการเสนอให้คณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน แล้วต้องเสนอให้คณะอนุกรรมการจัดรูปที่ดินกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้ความเห็นชอบ และสุดท้ายต้องเสนอคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกระทรวง เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในขั้นตอนสุดท้าย จึงจะสามารถดำเนินโครงการได้ อย่างไรก็ตามความคืบหน้าโครงการดังกล่าวปัจจุบันมีเจ้าของที่ดินเพียง 2 รายที่ยังไม่เข้าโครงการ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ ….