วันนี้( 19 ก.ย.65 ) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณถนนคนเดิน หน้าสวนพระเงิน ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ประธานเปิดการแข่งขัน “ประเพณีพื้นบ้านสามล้อพ่วงท้าย” อนุรักษ์วิถีโบราณ สีสันสัญลักษณ์เปิดงานบุญสารทเดือนสิบนครศรีธรรมราช ปี 65 ในระหว่างวันที่ 19-28 ก.ย.65 อย่างเป็นทางการ ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 24 คัน เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพปั่นสามล้อพ่วงท้ายรับจ้างในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
สำหรับงานเทศกาลบุญสารทเดือนสิบนครศรีธรรมราชได้เปิดเริ่มอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมสืบทอดประเพณีการทำบุญให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับมาอย่างยาวนานนับร้อยปี ซึ่งในงานบุญนี้จะมีการส่งสัญญาณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานด้วยการแข่งขันสามล้อพ่วงท้าย โดยผู้ที่มาร่วมปั่นแข่งขันล้วนแต่เป็นนักปั่นสูงอายุซึ่งมีอาชีพปั่นสามล้อรับจ้าง เป็นอาชีพดั้งเดิมมากว่า 100 ปี โดยอดีตถือเป็นวิถีของการโดยสารไปไหนมาไหนของชาวนครศรีธรรมราช และปัจจุบันนับวันเริ่มสูญหายไปจากสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการอนุรักษ์ไว้โดยจะพบเห็นจำนวนสามล้อมากที่สุดในงานเทศกาลนี้ กติกาในการแข่งขัน ได้แบ่งออกเป็นสามรุ่นคือรุ่นอายุ 45-59 ปี รุ่น อายุ 60-70 ปี และรุ่น 71 ปีขึ้นไป
ซึ่งในการแข่งขันนั้น มีจุดเริ่มต้นที่ถนนราชดำเนินหน้าเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และมีเส้นชัยที่หน้ากองอำนวยการงานเทศกาลเดือนสิบสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด ระยะทางรวม 6 กม. ผลการแข่งขันดังนี้ รุ่นอายุ 45-59 ปี
รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ นายสมรักษ์ เจ๊ะสมัน, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ นายบัญหาร ช่วยเหลือ, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ นายประดิษฐ์ ดาราจร
รุ่นอายุ 60-70 ปี รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ นายประภาส ตรงต่อการ, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ นายสมศักดิ์ โพธิ์น้อย, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ นายสุชล สิงจตรีพงษ์
รุ่นอายุ 71 ปี ขึ้นไป รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ นายไชยรงค์ กาบแก้ว, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ นายชุมพล สุปรานนท์, รางวัลชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ นายวิเชียร ภักดิ์ษา,
โดยรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 รับเงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และข้าวสาร 1 ถุง รางวัลชนะเลิศ อันดับ 2 รับเงินสด 2,500 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และข้าวสาร 1 ถุง รางวัลชนะเลิศ อันดับ 3 รับเงินสด 1,500 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และข้าวสาร 1 ถุง และผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนที่ไม่ได้รางวัล จะได้รับเงินสด จำนวน 1,000 บาท พร้อมข้าวสาร 1 ถุง เป็นรางวัลปลอบใจท่ามกลางแรงเชียร์ของชาวบ้านอย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียว