เมื่อเร็วๆ นี้ นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “สัปดาห์แห่งความปลอดภัย โรงเรียนวิเชียรชม” ภายใต้โครงการ “เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน (Chevron Street Wise)” ณ ห้องประชุมวิเชียรคีรี โรงเรียนวิเชียรชม จังหวัดสงขลา โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา นายกเทศมนตรีนครสงขลา สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ตลอดจนผู้บริหารและคณะครู นักเรียน โรงเรียนวิเชียรชม
โครงการ “เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน (Chevron Street Wise) เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เพื่อสร้างวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับเยาวชนในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ผ่านการอบรมและกิจกรรมเรียนรู้ต่างๆ ตลอดจนการทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการดำเนินงานของ Chevron Street Wise นั้นสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal: SDGs) เป้าหมายที่ 3.6 ลดจำนวนการตายและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วโลก และแผนสากล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทศวรรษที่สองแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2564 – 2573 โดยหัวใจสำคัญของโครงการคือ การให้เยาวชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา เพื่อช่วยให้เป็นผู้ใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เนื่องจากการเดินทางที่ปลอดภัย และการไปโรงเรียนที่สะดวกเป็นหัวใจสำคัญของการเข้าถึงการศึกษา
ด้าน นางสาวชบา ไชยจารีย์ ที่ปรึกษาโครงการ มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย กล่าวว่า “โครงการ Chevron Street Wise จังหวัดสงขลา ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ก่อนจะขยายพื้นที่การดำเนินโครงการในจังหวัดนครศรีธรรมราชในปี พ.ศ. 2561 รวมมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 17 โรงเรียน แบ่งเป็น 12 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และ 5 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมูลนิธิฯ ได้พัฒนาหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนให้เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก พร้อมจัดทำคู่มือครูเพื่อให้คุณครูสามารถสอนเรื่องการใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ ‘สัปดาห์แห่งความปลอดภัย โรงเรียนวิเชียรชม’ มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนทุกคนเกี่ยวกับความปลอดภัย ทางถนน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การบูรณาการการเรียนรู้ความปลอดภัยในชั้นเรียน การมอบเกียรติบัตรให้นักเรียนที่ได้รับเลือกเป็นทูตกิจกรรมความปลอดภัย การอบรมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา โดยนักเรียนกว่า 2,000 คนจะได้มีส่วนร่วมในสัปดาห์แห่งความปลอดภัยนี้”
นายปรารถนา ยามาลี ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงบนฝั่งสงขลา บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า
“ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ของการดำเนินโครงการ Chevron Street Wise พบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัยของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ในสงขลา เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 55% มีการใช้ทางข้ามหรือทางม้าลายเพิ่มขึ้นจาก 29% เป็น 74% มีอัตราการไม่วิ่งขณะข้ามถนนเพิ่มขึ้นจาก 47% เป็น 72% ในขณะที่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ในนครศรีธรรมราช มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 62% โดยโครงการฯ ได้เสริมสร้างความรู้และทักษะความปลอดภัยทางถนนให้กับเด็ก ผู้ปกครอง คุณครู และคนในชุมชนแล้วกว่า 30,000 คน
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนของชุมชนในจังหวัดสงขลา อย่างยั่งยืน การดำเนินโครงการ Chevron Street Wise สอดคล้องกับนโยบายด้านความปลอดภัยของเชฟรอน ที่มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลสวัสดิภาพของผู้ใช้ถนนในชุมชนที่เราอาศัยอยู่ และเป็นหนึ่งในนโยบายทางด้านสังคมของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศที่เรายึดมั่นและถือปฏิบัติตลอดระยะเวลาที่ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 60 ปี”
นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “ขอขอบคุณ ทางบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย และโรงเรียนวิเชียรชม ที่ทั้งสามหน่วยงาน ได้ร่วมจับมือประสานกันดำเนินโครงการโดยให้ความสำคัญต่อสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเรา นั่นคือความปลอดภัยในชีวิต วันนี้ทุกท่านได้ร่วมกันรณรงค์ ให้ความรู้ เพื่อป้องกันชีวิตของเพื่อนมนุษย์ที่อาจจะเกิดภัยอันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมหวังว่าผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน จะช่วยให้เราสามารถลดอัตราการเสียชีวิตและลดความรุนแรงจากอุบัติอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดสงขลาได้”