วันนี้ (12 พ.ย.68) สมาคมท่องเที่ยวขนอม ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เเละ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด จัด“โครงการอบรมนักสื่อความหมายพื้นที่ขนอม – สิชล” ครั้งที่ 2 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักสื่อความหมายในพื้นที่ พร้อมเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในอนาคต โดยมีนางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานในพิธีเปิด
นางวจิราพร กล่าวชื่นชมการทำงานของสมาคมที่มุ่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอดการอบรม หลักสูตรเข้มข้น ครอบคลุมทั้งมิติทฤษฎีและการประยุกต์ใช้จริง โดยได้วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวระดับประเทศ อาทิ ผศ.ดร.ไพฑูรย์ มนต์พานทอง ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิตภาคพิเศษในส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต คณะการจัดการท่องเที่ยวสถาบันพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า) ประธานกรรมการตัดสินรางวัล Thailand Tourism Awards 2568อาจารย์ ดร.สุขุมาล กล่ำแสงใสสำนักวิชาการจัดการ ม.วลัยลักษณ์คุณสุเทพ เกื้อสังข์ อดีตรองผู้อำนวยการ อพท. พ.ต.ท.ภัทรินทร์ สุทธิภัทรธรรม สถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 (สุราษฎร์ธานี–นครศรีธรรมราช)
โดยตลอด 2 วัน มีเนื้อหาสำคัญ เช่น เทรนด์ท่องเที่ยวโลกสู่พื้นที่ไทย, พฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่, การออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ทะเล, การเล่าเรื่อง (Storytelling) เพื่อสร้างประสบการณ์ WOW, บทบาทตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ ขนอม–สิชล การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนสู่ความยั่งยืน โดยผู้เข้าร่วมจำนวน 30 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมรุ่นแรก ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้นและเปี่ยมไปด้วยพลังการพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่
วัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนานักสื่อความหมายให้มีพื้นฐานที่ดีและต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมืออาชีพสร้างต้นแบบนักสื่อความหมายประจำชุมชน สร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวได้อย่างประทับใจ พัฒนานักสื่อความหมายในเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ขนอม–สิชลเตรียมความพร้อมยกระดับสู่ “มัคคุเทศก์อาชีพ” ในอนาคต ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะพื้นที่ขนอม–สิชลที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างองค์ความรู้ แต่ยังสร้าง “คนคุณภาพ” ที่จะเป็นกำลังสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพในอนาคต.
