ผู้การตำรวจเมืองคอนแถลงข่าวจับหนุ่มพร้อมอาวุธปืนหลายกระบอก-หลังสั่งระดมตำรวจกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนอย่างเข้มงวดในระยะนี้
เมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 15พค.2567 ที่ห้องโถง บก.ภ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ.ท่าศาลา,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.อภิรักษ์ จันทวิเศษ สว.สส.ได้ร่วมแถลงข่าวผลงานตำรวจสภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จับกุมนายวาทิต แก้วนาค หรือ”สปาร์ค ตลิ่งชัน” อายุ 34ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/6 ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางอาวะปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ประกอบด้วย1..มีอาวุธปืนยาวลูกซอง ยี่ห้อ อาร์มสกอ ขนาดเบอร์12 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก 2. อาวุธปืนกลมือ เอ็มสาม ขนาด 11 มม ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก 3. อาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ยี่ห้อเทารัส ลำกล้องความยาว 2 นิ้ว ขนาด .357 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก 4.กระสุนปืนลูกซอง เบอร์12 จำนวน 10 นัด 5. กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 54 นัด 6. กระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 4 นัด 7. กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด 8. เสื้อเกราะกันกระสุน พร้อมแผ่นเกราะกันกระสุน จำนวน 1 ตัว ซึ่งเป็นอาวุธปืนเถื่อนไม่มีทะเบียนทั้งหมด
พล.ต.ต.สมชาย ได้แถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อตอนกลางวันของเมื่อวานนี้วันที่ 14พค.ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านและใส่รถเก๋งของชาวบ้านคนหนึ่งที่บ้านเลขที่ 11 ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนได้สั่งการให้ตำรวจสภ.ท่าศาลา ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ.ท่าศาลา,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.นำกำลังออกทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวคนร้ายรายนี้คือนายวาทิตหรือสปาร์ค ตลิ่งชัน จึงนำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักจนพบอาวะปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากดังกล่าว โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาคนดังกล่าวให้การรับสารภาพใช้อาวุธปืนยิงยิงเล่นขึ้นฟ้าจริง ทำให้กระสุนพลาดไปโดนบ้านและรถยนต์ของชาวบ้านคนหนึ่งที่อยู่ห่างจากบ้านผู้ก่อเหตุประมาณ100เมตร โดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ซึ่งทางตำรวจได้คุมตัวนายวาทิตหรือสปาร์ไปตรวจปัสสาวะพบฉี่สีม่วงจึงคุมตัวดำเนินคดีตามกม.ต่อไป
ซึ่งนโยบายของตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชตนได้สั่งเข้มกำชับให้ตำรวจในพื้นที่เร่งระดมกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราชอย่างจริงจังเนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุจำนวนมากจึงสั่งกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนอย่างเข้มงวดในช่วงนี้.