ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พุทธศาสนิกชน ทายก ทายิกา และลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากในพื้นที่ ต.กรุงชิง ได้ร่วมกันทำนุบำรุงศาสนา โดยการร่วมกันทอดกฐินสามัคคี ให้กับ วัดปากลง หมู่ 6 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสมทบทุนสร้างโบสถ์พระพุทธสิหิงค์หลังใหม่ ให้เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางความเลื่อมใส ศรัทธาของคนในพื้นที่ โดยมี พระอาจารย์สุรินทร์ ฉนทโก เจ้าอาวาสวัดปากลง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิโรจน์ ขวัญเกื้อ ประธานฝ่ายฆราวาส
สำหรับวัดปากลงในปัจจุบัน เดิมเป็นป่าช้าเก่า ที่รกร้าง ภายหลังจากที่พระ พ่อท่านพร หรือ (พระอาจารย์สุรินทร์ ฉนทโก) ได้ธุดงค์มาพบเห็นต้นไทรใหญ่ที่มีความสวยงามบนเนื้อที่ 12 ไร่เศษแห่งนี้ จึงตั้งสำนักสงฆ์ขึ้น (สำนักสงฆ์ไทรงาม) และได้เปลี่ยนมาเป็นวัดปากลงเมื่อปี 2560 ด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้านที่ร่วมกันฟื้นฟูบูรณะกันมาตลอด หลังเกิดความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2554 และด้วยการยอมรับยกย่องเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน มาตลอด 50 ปี ของ พ่อท่านพร พระนักพัฒนา ที่อยากเห็นพระอุโบสถ ที่สร้างจากเงินทำบุญของชาวบ้านให้แล้วเสร็จ จึงรวมพลังกันทอดผ้าป่าและกฐินสามัคคีกันในปีเดียว 4 ครั้ง เพื่อสบทบทุนสร้างให้แล้วเสร็จตามปณิธาน โดยในครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563,ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2563,ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 และมาถึงการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างพาหลั่งไหลกันเข้ามาทำบุญมากมาย ซึ่งคาดว่าพระอุโบสถหลังใหม่นี้จะเสร็จสมบูรณ์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านทุกคนเชื่อด้วยพลังศรัทธาที่ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคล เพิ่อแจกจ่ายและให้เช่าบูชากับผู้ร่วมทำบุญ ให้ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ พ้นจากภัยอันตรายในช่วงสถานการณ์โควิด–19 ด้วยหัวนะโม,พระพุทธสิหิงค์,เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ และโดยเฉพาะเหรียญไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ จึงดึงพลังศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนหลายพื้นที่เข้าร่วมกันประกอบพิธีทางศาสนา และร่วมกันอนุโมทนาบุญ สบทบทุนสร้างพระอุโบสถให้กับวัดจนแล้วเสร็จ