เมื่อเช้าวันที่ 25ตค.2563 ที่บริเวณประพิธีลานหน้าโบสถ์วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) หมู่ 7 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นายธีรธร เชาวนโยธิน กก.ผจก.บริษัทไอยรา แอนมิเนชั่น แอนด์ สตูดิโอ พร้อมด้วย ผู้กำกับภาพยนตร์,ดารานักแสดงภาพยนตร์เรื่อง”ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”และผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคนและแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมทำพิธีบวงสรวงการจัดสร้างภาพยนตร์เรื่อง”ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”โดยเริ่มพิธีพราหมณ์เป็นเวลานานกว่า 1ชม.หลังเสร็จพิธีพราหมณ์แล้ว ได้มีพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ได้มาทำพิธีเจิมกล้องฉายภาพยนต์ขนาดใหญ่ของผู้จัดสร้างภาพยนต์เพื่อความเป็นศิริมงคลและเอาฤกษ์เอาชัยให้การจัดสร้างภาพยนต์เรื่อง”ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”ผ่านพ้นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรคใดๆ
จากนั้นผู้บริหารบริษัท ผู้กำกับภาพยนตร์พร้อมกองทัพดารานักแสดงภาพยนตร์เรื่อง”ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”ได้เข้าไปในอุโบสถเพื่อกราบไหว้สักการะรูปปั้นไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ตัวจริง เพื่อขออนุญาตในการจัดสร้างภาพยนต์และเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับนักแสดงทุกคน พร้อมกราบไหว้พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
คุณธีรธร เชาวนโยธิน กรรมการผู้จัดการบริษัทไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ และผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง”ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”เผยว่า การบวงสรวงภาพยนตร์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ในวันนี้ ก็เป็นนิมิตรหมายที่ดี ซึ่งทางทีมงานได้เตรียมการมาระยะหนึ่งแล้วประมาณ1ปี วันนี้ก็เป็นฤกษ์ที่ดีที่หลวงพ่อท่านให้ฤกษ์มาทำพิธีบวงสรวงในวันนี้ ตนมีความตั้งใจให้ผู้คนทั่วไปได้รู้จักไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ วนนี้ตนก็ได้ทำแล้ว เกิดขึ้นมาในวันนนี้ด้วยทีมงานที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมิตรไมตรีจากคนทางใต้ ทำให้เรามีกำลังใจว่าเราจะทำให้ดีที่สุด คาดว่าจะเปิดกล้องถ่ายได้ประมาณเดือนมกราคม2564 และคาดจะออกฉายได้ประมาณเดือนพค.หรือมิ.ย.2564แน่นอนครับ ส่วนการตั้งเป้ายอดนั้นตนไม่กล้าตั้งเป้า ที่ทำลงไปเพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้ว่าไอ้ไข่คือใครและสิ่งที่อยากให้รู้ว่าก็คือมิตรภาพ ซื่อสัตย์ ศรัทธา บารมีในหนังเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับไอ้ไข่ และตนขอยืนยันว่าหนังเรื่องนี้เราได้ลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องจากเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่หรือท่านแว่น และจะมีการแถลงข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งก่อนปีใหม่นี้
“อยากให้ทุกคนที่เป็นแฟนคลับ หรือใครที่ยังไม่รู้จักไอ้ไข่ อยากให้ลองดูเรื่องนี้จะรู้ประวัติไอ้ไข่อย่างดี” ผู้กำกับภาพยนต์เรื่องไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด.
จากนั้นคณะผู้สร้างภาพยนตร์ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ พร้อมดารานักแสดงทุกคน ได้เดินทางไปยังลานด้านหน้าสถานที่จุดประทัดของวัดเจดีย์ พร้อมกับขบวนรถบิ๊กไบค์จำนวน 108คัน ได้พร้อมใจกันเบิ้ลเสียงรถบิ๊กไบค์พร้อมกันทั้ง108คันดังสนั่นวัดเจดีย์ ก่อนจุดประทัดจำนวนหนึ่งเพื่อถวายไอ้ไข่เทพแห่งเมืองนครศรีธรรมราช
ในขณะที่ทีมนักแสดง ภาพยนตร์ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” อาทิ “น้องพลอย”พลอยวรินทร์ แสนชัย ,ต้น ศักราช, ปราปต์ปฎล สุววรณบาง, ปาล์ม ศุภ ชัย, ป๊อก โฆษวิส, เก่ง ชัชวาล, จอห์น บราโว่, โกวิฐ วัฒนกุล, บุ๋มบิ๋ม สามโทน, หลุยส์ ชวนชื่น, ช.เอ ณ บาง ช้าง, นุ่น อัจฉรา และนักแสดงสมทบอีกมากมาย กำกับภาพยนตร์โดย “เอก” ธีรธร เชาวนโยธิน ที่มีผลงานการ กำกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องบ้านขังวิญญาณ (ปี2014)และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องบางกอก 13 (ปี2016) ซึ่งภาพยนตร์ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” พระเอกหนุ่ม “ต้น” ศักราช รับบท เก่ง ,ปราปต์ปฎล สุววรณบาง รับบท ผู้ใหญ่เที่ยง, “ปาล์ม” ศุภ ชัย รับบท สิน ,“ป๊อก” โฆษวิส รับบท พ่อไอ้ไข่, “เก่ง” ชัชวาล รับบท ศร,โกวิฐ วัฒนกุล รับบท ขุนสมาน , “บุ๋มบิ๋ม” สามโทน รับบท เสือกลับ พร้อมนักแสดงรับเชิญ หลุยส์ ชวนชื่น, ช.เอ ณ บาง ช้าง,นุ่น อัจฉรา ,จอห์น บราโว่ เมืองชัย กิตติเกษม ส่วนนักแสดงเด็ก “น้องโกฮัง” ณัฐวรรธ สุ่มพลอย รับบท “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำนานเรื่องเล่า “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” มีเรื่องเล่าเป็นตำนานต่อเนื่องกันมานานกว่าร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยพระธุดงค์ผู้มีญาณบารมีสูงส่งรูปหนึ่งได้นำดวงจิตของเด็กชายวัย 10 ขวบมาพำนักไว้ที่วัดร้างบ้านฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยได้กำชับเด็กชายผู้นั้นไว้ “ให้อยู่เฝ้าสถานที่แห่งนี้ จนกว่าจะมีผู้มีบุญญาธิการมาถึง” หลังจากนั้นเด็กชายผู้นั้นได้อุทิศตนรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับพระธุดงค์ตลอดมา จนกระทั่งอีกเกือบหนึ่งร้อยปีต่อมา (ราวปีพุทธศักราช 2470) ได้มี“เก่งและเปี๊ยก” สองพี่น้องเดินทางพนันชนไก่จากพระนครสู่เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อถึงบ้านฉลองเก่งเอาไอ้แดงไก่ชนคู่ทุกข์คู่ยากไปชนกับไก่ของนักเลงเจ้าถิ่นจนแพ้พนันหมดตัว
เก่งและเปี๊ยกจึงต้องไปอาศัยวัดร้างแห่งหนึ่งเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ทั้งคู่ได้พบกับเด็กคนชายคนหนึ่งในวัดร้างนั้น ซึ่งเก่งเรียกเขาว่า “ไอ้ไข่” และนึกว่าเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่มาทิ้งไว้เขาจึงพยายามช่วยตามหาพ่อแม่ของไข่ เมื่อได้เรียนรู้และช่วยเหลือกันมากเข้าก็กลายเป็นเพื่อนรักโดยที่เก่งไม่เคยเอะใจเลยว่าไอ้ไข่ไม่ใช่เด็กธรรมดา
ต่อมาเก่งมีปัญหากับลูกชายผู้กว้างขวางแห่งสิชลคือ “ศร” และ “สิน” จากการพนันชนไก่ ส่วนขุนสมานเองก็พยายามที่จะขุดหาสมบัติในวัดร้างนั้นมาเก็บรักษาไว้เองอยู่หลายครั้งแต่ไม่เคยสำเร็จ จนกระทั่งคืนหนึ่ง นายสินพาพวกตามมาหาเรื่องเก่งถึงวัดร้าง ไอ้ไข่ปรากฏตัวออกมาใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยเก่งไว้ และสินตายด้วยอุบัติเหตุในคืนนั้น ทำให้เก่ง ได้รู้ความจริงว่าได้ไข่ไม่ใช่มนุษย์ ตอนแรกเขานึกกลัวไอ้ไข่เหมือนคนอื่นทั่วไปแต่ก็กลับมาคิดได้ว่ามิตรภาพของเขากับได้ไข่นั้นมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือวิญญาณต่างเป็นเพื่อนกันได้ เก่งเริ่มอยากช่วยให้ดวงจิตของไอ้ไข่ได้ไปเกิดใหม่เพื่อหลุดพ้นจากภาระเฝ้าสมบัติจนถูกขุนสมานหลอกใช้ เปิดทางให้ขุนสมานขนสมบัติจำนวนมากออกมาจากวัด ไอ้ไข่เสียใจมากเข้าใจว่าเก่งไม่จริงใจกับตนเอง ความเข้าใจผิดทำให้เกิดรอยร้าวครั้งใหญ่ระหว่างกัน ยิ่งกว่านั้น “เสือกลับ” จอมขมังเวทย์ก็ได้เดินทางมาถึงบ้านฉลองเพื่อร่วมมือกับขุนสมานเตรียมจัดการไอ้ไข่ขั้นเด็ดขาด
“ไอ้ไข่” ต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาสมบัติตามคำมั่นที่เคยให้ไว้กับพระธุดงค์ ส่วนเก่งก็พร้อมจะสละชีวิตเพื่อไถ่โทษและช่วยเหลือเพื่อนรัก ทั้งคู่จะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร โปรดติดตามชมภาพยนตร์สุดยอดตำนานกุมารเทพแห่งยุค “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” กันต่อไปนะครับ.
