“พิชัย บุณยเกียรติ “หัวหน้าทีม“ทำทันที”แถลงยืนยันสมัครชิงนายก อบจ.เมืองคอนแน่นอน-ถือเคล็ดยืนสมัคร 10 โมง วันที่ 5 พ.ย. 2563
“พิชัย บุณยเกียรติ “หัวหน้าทีม“ทำทันที”แถลงยืนยันสมัครชิงนายก อบจ.เมืองคอนแน่นอน-ถือเคล็ดยืนสมัคร 10 โมงวันที่ 5 พ.ย. 2563 -ยืนยันรับนโยบายด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน ซึ่งคุณไพฑูรย์ อินทศิลา สื่ออาวุโสมาเป็นนโยบายหลักพร้อมขับเคลื่อนสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
(3 พ.ย.)ที่ศูนย์ประสานงาน “ทีมทำทันที” สถาบันรัชต์ภาคย์ ถนนเทวบุรี ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชนายพิชัย บุณยเกียรติ หัวหน้าทีม”ทำทันที” และว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ดร.ชัยวุฑ ตรึกตรอง ผู้บริหารสถาบันรัชต์ภาคย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทีมผู้บริหารและผู้สนับสนุน ได้ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชว่า ตนเดินทางเข้าสู่การเมืองตามขั้นตอนตั้งแต่ยังไม่มีการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น เริ่มจากลงนับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.จ. และเป็นรองประธานสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อยกระดับเป็นองค์การบริหารส่วนจังหงัด ก็ลงสมัครเป็น ส.อบจ. และเป็นประธานสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะเป็นรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และยังเป็น ส.ว.นครศรีธรรมราชอีก 1 สมัยอีกด้วย จากนั้นลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนกว่า 1.8 แสนคะแนน
จนการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2557 ตนลงสมัครในตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชอีกสมัย และผลการเลือกตั้งแม้ประชาชนจะลงคะแนนให้ตนกว่า 220,000 คะแนน โดยในจำนวนนั้นเป็นบัตรเสียเกือบกว่า 10,000 คะแนน แต่ตนก็ยังพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อนายมาโนช เสนพงศ์ เพราะคู่แข่งใช้วิชามารในการโกงการเลือกตั้ง จนตนได้ยื่นร้อง กกต.ให้มีการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง กกต.และ ปปช.ตัดสินให้ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งได้ใบแดงพ้นจากตำแหน่ง และนำมาสู่การดำเนินคดีทางทางเพ่งและอาญา ตนต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องเป็นธรรมอย่างอดทนมายาวนานถึง 7 ปี จนในที่สุดศาลอาญาได้พิพากษาให้จำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ พี่ชายนายมาโนชคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี จนมาถึงขณะนี้รัฐบาลและ กกต.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.และผู้บริหาร อบจ.อีกครั้ง ตนจึงตัดสินใจลงสมัครในตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามทาง กกต.ได้ประกาศรับสมัครในระหส่างวันที่ 2-6 พ.ย. 2563 โดยในวันแรกมีผู้สมัครไปยื่นใบสมัครอย่างคึกคัก 5 คน และในวันนี้ (3 พ.ย.) 2563 มีผู้สมัครตำแหน่งนายก อบจ.เพิ่มอีก 1 คน โดยตนยังไม่ไปสมัครทำให้คู่แขช่งบางคนไปปล่อยข่าวว่าในครั้งนี้ตนไม่พร้อม และจะๆไม่ลงสมัคร ทำให้ประชาชนสับสนและสงสัยวิพากวิจารณ์และสอบถามมาเป็นจำนวนมาก ตนขอเรียนว่าสาเหตุที่ตนยังไม่ไปยื่นสมัครกับทาง กกต.เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่ได้ให้พรตนและได้แนะนำว่าให้ไปสมัครในเวลา 10.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. 2563 แต่ขอให้ประชาชนชาวนครศรีธรรมราชที่เคยไว้วางใจลงคะแนนเลือกตนมั่นใจได้ว่าตนจะลงสมัครในตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชในวันที่ 5 พ.ย. 2563 นี้อย่างแน่นอน
อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำหรับแนวนโยบายของตนและทีมทำทันที มีนโยบายครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งด้านการการส่งเสริมอาชีพ ด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต การบริหารจัดการน้ำ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสาธารณูปโภค เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง ศาลสนา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน ซึ่งคุณไพฑูรย์ อินทศิลา สื่ออาวุโส ประกาศขับเคลื่อนผลักดันและมีเป้าหมายจะลงสมัครในตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชในครั้งนี้ด้วย ตนขอยืนยันว่านโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายที่ดี และสามารถดำเนินการได้ในกรอบของ อบจ.นครศรีธรรมราช ตนพร้อมจะรับนโยยาบดังกล่าวเป็นดำเนินการเป็นโยบายหลักของทีมทำทันที เพราะเป็นนโยบายที่ตนให้ความสำคัญและทำมาแล้วในการดำรงตำแหน่งเป็นนาบก อบจ.นครศรีธรรมราช สมัยแรก โดย 4 ปีที่ตนดำรงตำแหน่งได้ให้ส่งเสริมเรื่องการศาสนา ประณี วัฒนธรรมื้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน ทั้งหนังตะลุง โนราห์ เพลงบอกและอื่น ๆ อย่างจริงจังต่อเนื่อง แต่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากานสนับสนุน ส่งเสริมไม่เต็มที่ ทำให้การขับเคลื่อนในส่วนนี้ขาดหายไป หากประชาชนให้ความไว้วางใจเทคะแนนเลือกตนเป็นนายก อบจ.นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ตนจะเข้าไปทำทันที โดยไม่ชักช้า และมั่นใจว่าจะสามารถนำกิจกรรมด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้านมาเป็นปัจจัยและเงื่อนไขสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน นายพิชัย กล่าวยืนยัน
ในขณะที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา กล่าวว่า การลงรับสมุครตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นเรื่องใหญ่มาก และมรแนวนโยบายหลักคือการสนับสนุน ส่งเสริอมด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้านมาตนเตรียมเอกสารหลักฐานไว้พร้อมแล้วเพื่อเดินทางไปยื่นสมัครในช่วงบ่ายของวันที่ 6 พ.ย. 2563 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร แต่หลังจากที่มีผู้ยื่นสมัครแล้ว 6 คนทุกคนต่างยืนยันจะให้การสนัยบสนุนส่งเสริม ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้านมาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ นายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ ผู้สมัครเบอร์ 4 และ พล.ท.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน ผู้สมัครเบอร์ 6 ได้แถลงรับแนวนโยบายของตนไปเป็นนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่หากได้รับเลือกหเป็นนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และนายพิชัย บุณยเกียรติ ที่จะสมัครในวันที่ 5 พ.ย. 263 ได้แถลงข่าวยืนยันอย่างเป็นทางการที่จะนำนโยบายของตนไปเป็นนโยบายหลักในการปฏิบัติหน้าที่หากชนะการเลือกตั้ง ทำให้ตนค่อนข้างมั่นใจว่า ผู้สมัครในตำแหน่งนายก อบจ.ทุกท่านมีความตั้งใจที่จะนำนโยบายของตนไปสนับสนุน ส่งเสริมอย่างจริงจัง ตนจึงยุติการลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราชไปโดยปริยาย แต่หากหลังกสารเลือกตั้งผู้ที่ชนะการเลือกตั้งเกิดเบี้ยวไม่นำเอาแนวนโยบายของตนไปสู่การปฏิบัติจริง ตนจะออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องเพื่อฟ้องประชาชนให้รับรู้ว่านายก อบจ.นครศรีธรรมราชท่านดังกล่าวเป็นคนโกหกหรือตระบัดสัตย์ ไม่จริงกับชาวนครศรีธรรมราชตามที่ประกาศยืนยันไว้อย่างเป็นทางการในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง.