รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 เป็นประธานเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านกำลังพล และยุทโธปกรณ์
วันนี้ (11 มี.ค.64 ) เวลา 14.00 น. ณ สนามร้อยมณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พันเอก ศุภชัย ปรีชามาตร์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 เป็นประธานในพิธี เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง”ประจำปี 2564 พร้อมปล่อยขบวนยานพาหนะ เพื่อแจกจ่ายน้ำ สำหรับการอุปโภคบริโภค ให้กับพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือนร้อน ในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วย โดยมีหน่วยเข้าร่วมเปิดโครงการฯ อาทิ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ภายในค่ายวชิราวุธ , การประปาส่วนภูมิภาค , การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค , สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ,เทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช, เทศมนตรีเมืองปากพูน, และเทศมนตรีตำบลท่าแพ
ด้วยปัจจุบันเข้าสู่ห้วงฤดูร้อน และพบว่าได้เกิดสถานการณ์ ด้านภัยแล้ง ในหลายพื้นที่ทุกภาคของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ ก็เริ่มมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนในขั้นต้นแล้ว ในการนี้ กองทัพบก โดยผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้อนุมัติโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ” เห็นความสำคัญในการช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ให้การช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และแหล่งน้ำดิบ ด้วยการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน โดยทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ และพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ค่ายวชิราวุธ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 41 ได้กำหนดพิธีเปิดโครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง เพื่อรองรับการปฏิบัติตามนโยบายกองทัพบก มุ่งสู่การให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ตามแผนการบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
พันเอก ศุภชัย ปรีชามาตร์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ได้กล่าวในโอกาสนี้ว่า โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง เป็นโครงการสำคัญยิ่งที่กองทัพบกได้เห็นความสำคัญ ร่วมกับ กลุ่มบริษัทการปริโตเลียมแห่งประเทศไทยจำกัด (มหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ, กรมทรัพยากรน้ำบาดาล, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยทหารทุกหน่วย ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันเวลา ตลอดจนมีการประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และทุกภาคส่วนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ทหารพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ และพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส.