ด่วนศาลอุทธรณ์ภาค8พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก”เทพไท เสนพงศ์”และน้องชาย”มาโนช เสนพงศ์”คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน เมื่อปี2557 ลุ้นประกันตัวศาลฎีกา
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 11พค.2564 ที่บัลลังก์ 7 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลอุทธรณ์ภาค8 จ.ภูเก็ต ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค8 ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์มายังห้องบัลลังก์7 ในคดีที่นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อปี 2557 ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ซึ่งคดีนี้เมื่อวันที่ 28สิงหาคม 2563 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1และที่ 2คนละ2ปี และตัดสิทธิทางการเมืองคนละ10ปี
โดยก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค8จะอ่านคำพิพากษา ทางศาลได้สั่งให้ตำรวจศาลใส่กุญแจมือจำเลยทั้ง2 จากนั้นได้อุทธรณ์ภาค 8ได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 30นาที สรุปศาลเชื่อในน้ำหนักพยานของโจทก์โดยปราศจากข้อสงสัยจึงมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค8 ยืนตามศาลชั้นต้น คือให้จำคุกจำเลยที่1และที่ 2 คนละ2ปีและตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนละ10ปีเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ทางตำรวจศาลได้คุมตัวจำเลยทั้งสองนายเทพไทย เสนพงศ์และนายมาโนช เสนพงศ์ ใส่กุญแจมือเดินออกจากห้องพิจารณาคดีบังลังก์7 ลงไปห้องคุมขังใต้ถุนศาลชั้นล่างเพื่อรอส่งตัวไปยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชต่อไปในเย็นวันนี้หากศาลฎีกาไม่ให้ประกันตัว
โดยล่าสุดทางนายเทพไทและนายมาโนช ได้ให้ทนายความส่วนตัวดำเนินการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลฎีกาต่อไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาว่าจะให้ประกันหรือไม่ต่อไปภายในวันนี้ หากศาลฎีกาไม่ให้ประกันตัวทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้คุมตัวนายเทพไทยและนายมาโนช เข้าในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชต่อไป ท่ามกลางกองเชียร์มาลุ้นให้กำลังใจจำนวนมาก
สำหรับคดีนี้หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายเทพไท และนายมาโนช คนละ2ปีและตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนละ10ปีแล้วนั้น และเมื่อ27มกราคม2564 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิพากษาให้นายเทพไท เสนพงศ์ พ้นจากสภาพ สส.นครศรีธรรมราช เขต3 และตัดสิทธิ์ทางการเมือง10ปี จนนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เมื่อ7มีนาคม2564 ทำให้พรรคพลังประชารัฐ ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย โดยนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรคพลังประขารัฐ เอาชนะ นายพงศ์สินธ์ เสนพงศ์ น้องนายนายเทพไท เสนพงศ์ ด้วยคะแนนถล่มทลายนั้น จนล่าสุดวันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค8 ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นดังกล่าว
สำหรับคดีนี้ วันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อปี 2557 ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ภายหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณา ศาลได้ออกรายงานกระบวนการพิจารณา คดีเสร็จการพิจารณาได้นัดฟังคำพิพากษาจำเลยทั้ง2ในวันนี้ (28 ส.ค.63) เมื่อเวลา10.00 น.ที่บัลลังก์ 1 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยทีมทนายความ และจำเลยทั้งสองคน พร้อมด้วยทีมทนายความ และคนสนิท รวมทั้งนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป.เดินทางมาให้กำลังรอคำพิพากษาในวันนี้ด้วย
โดยหลังจากศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ศาลได้วิเคราะห์ว่า จากการสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้ว ศาลเชื่อในพยานหลักฐานของโจทก์และปราศจากข้อสงสัย เชื่อว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามฟ้อง และพยานฝ่ายจำเลยฟังไม่ขึ้น ศาลจึงตัดสินพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองในสถานเบาจาก 3 ปี ลดเหลือจำคุกคนละ 2 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนละ10 ปี
ซึ่งภายหลังศาลอ่านคำพิพากษานายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมทีมทนายความ เดินทางออกจากศาลทันทีและกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผมขอขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรมตนในครั้งนี้ ผมพอใจในคำพิพากษามากครับ นายพิชัย กล่าว
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรค ปชป.และ นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เซ็นรับทราบคำพิพากษา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ใส่กุญแจมือจำเลยทั้งสอง เดินทางจากห้องบังลังก์ไปยังห้องควบคุมผู้ต้องขังด้านล่างของศาล เพื่อรอการประกันตัวในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป โดยจะใช้หลักทรัพย์เงินสดประกันตามที่ศาลพิจรณา หรือาจจะใช้ตำแหน่ง สส.ประกันตัวต่อไป ซึ่งรอศาลอุทธรณ์พิจารณาประกันตัวต่อไป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตเลือกตั้งที่ยาวนานเกือบ 7 ปี หลังจากที่นายพิชัย บุณยเกียรติ ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีโดยตรงได้ตัดสินใจยื่นฟ้องด้วยตัวเอง เนื่องจากคดีในกระบวนการปกตินั้นแต่เสร็จสิ้นการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ลงโทษจำเลยที่ 1 คือนายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท เสนพงศ์ ด้วยการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว ขณะที่ กกต.นครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช แต่พบว่ากระบวนการมีความล่าช้ากว่า 6 ปี คดียังค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้มีการสั่งคดี กระทั่งนายพิชัย ยื่นฟ้องโดยตรงจนศาลรับพิจารณาและนำไปสู่การพิพากษาจำคุกนายเทพไท และนายมาโนช คนละ 2 ปี ดังกล่าว.