เมื่อเที่ยงวันที่ 27 กพ.2566 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชหลังใหม่ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและพวกได้ร่วมแถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำโดยนายไพรัตน์ ทับชุม นอภ.สิชล,นายวีระชัย บุญนิสัย ปลัดอำเภอสิชล ได้ร่วมกันสอบสวนขยายผลติดตามเครือข่ายค้ายาเสพติด หลังจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พบกระสอบปุ๋ยอยู่ข้างทาง ในสวนส้มโอบ้านจอมทอง หมู่ 6 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยจากการตรวจสอบพบว่าในกระสอบปุ๋ยมียาบ้าอยู่จำนวน 1 กระสอบ รวมยาบ้า 4 แสนเม็ด
จากการสอบสวนเจ้าของสวนส้มโอ เบื้องต้นทราบว่ามีรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ ไม่ติดป่ายทะเบียน ขับมาก่อนจะลงมายกกระสอบปุ๋ยวางในจุดดังกล่าวจำนวน 2 กระสอบ แต่เปลี่ยนใจยกกลับขึ้นทายรถ 1 กระสอบ และวางในจุดดังกล่าว 1 กระสอบ ก่อนขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าในกระสอบปุ๋ยอีก 1 ใบที่ถูกยกกลับขึ้นทายรถเก๋งจะใส่ยาบ้ามาไม่นอยกว่า 4 แสนเม็ดเช่นเดียวกันและอาจจะนำไปวางไวในจุดนัดหมายที่ไหนอีกแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน
นายอภินันท์ แถลงว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้รับคำสั่งจากนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ให้สั่งการตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข็มงวดกวดขัน ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตามนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดครบวงจรของจังหวัดนครศรีธรรมราช เครือข่ายค้ายาเสพติดจึงไม่กล้านำยาเสพติดใส่รถขับไปส่งข้ามเขตอำเภอหรือจุดไกล เพราะเกรงจะเจอด่านตรวจหรือจุดสกัดของตำรวจ และได้เปลี่ยนวิธีการส่งยาเสพติด จากนำยาบ้าบรรจุกระสอบปุ๋ยแบบเดียวกันหลายกระสอบขับตระเวนนำไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ในระยะสั้น ๆ ก่อนโทรศัพท์นัดแนะให้เอเยนต์ยานรกในแต่ละพื้นที่มารับยาบ้าไปกระจายจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะได้สอบสวนขยายผลติดตามเจ้าของยาเสพติดรายนี้ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ่มประจวบพงษ์ ผกก.สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราชได้กำชับให้ชุดสืบสานและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการไล่ตรวจเช็คกล่องวงจรปิดในทุกเส้นทางเพื่อตรวจสอบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ ไม่ทราบทะเบียนคันดังกล่าว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสาวโยงมัดตัวเครือข่ายค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
